google-site-verification: google6176f3360d5aeec8.html
shopup.com

 

5011879


 

 
 

thelitabeauty

thelitabeauty

thelitabeauty

ดูบทความ7วิธีรักษาฝ้าด้วยตัวเอง

7วิธีรักษาฝ้าด้วยตัวเอง

หมวดหมู่: บทความของฉัน
 
ปัญหากวนใจของสาวๆ คงหนีไม่พ้น “ฝ้า” อย่างแน่นอน แต่ถ้าเกิด “ฝ้า” ขึ้นบนใบหน้าแล้ว

 
เราก็ต้องดูแลผิวหน้ากันดีๆ เพื่อให้รอยฝ้าจางลง แต่สงสัยกันบ้างไหมคะ ว่าทำไมรักษายังไง “ฝ้า” ก็ไม่จางลงสักที


 
เรามาดูกันดีกว่า ว่ามีพฤติกรรมใดบ้าง ที่ทำให้ “ฝ้า” ไม่จางลงสักที!




1 - ควรจะหลบแดด เพราะบางคนไม่ค่อยหลบแดด    



     แสงแดด สามารถทำร้ายผิวหน้าให้เกิดรอยฝ้าได้ดีอันดับต้นๆเลยทีเดียว เพราะแสงแดดจะปล่อยคลื่นรังสี UV


 
เมื่อได้รับรังสี UVA และ UVB จัดๆติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็จะเกิดอนุมูลอิสระในร่างกายที่เพิ่มขึ้น


 
จนรอยฝ้าเริ่มลอยเด่นชัดตามส่วนต่างๆของใบหน้า ไม่หายสักที..




วิธีรักษาฝ้าที่ดีที่สุด!

 

     ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF เหมาะกับสภาพผิว และสถานการณ์นั้นๆ เช่น..


 

(1.)หากอยู่แต่บ้าน หรือออฟฟิศไม่ค่อยได้ออกกลางแจ้ง ก็ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF15-30 PA+++


 
เพื่อป้องกันรังสีจากจอคอมและหลอดไฟ


 

(2.)หากต้องทำงานกลางแจ้งทั้งวัน ควรเลือกทาครีมกันแดดที่ค่า SPF50 PA++++


 
เพื่อป้องกันแสงแดดแรง และควรทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง รวมถึงสวมเสื้อผ้าที่ป้องกันแสงแดด


 
และสวมหมวกปีกกว้าป้องกันรังสี UV ก็จะทำให้รอยฝ้าจางลงได้ดี
 
 
 
 
 
 

พฤติกรรมที่ 2 – ใช้ครีมทาฝ้าไม่ได้มาตราฐาน


 

     การเลือกใช้ครีมทาฝ้าที่ไม่มีแหล่งที่มา แหล่งผลิต ไม่ระบุชื่อบริษัท ไม่มีส่วนผสมที่ชัดเจน


 
ก็จะทำให้หน้าขาวไว แต่ฝ้าก็ฝังลึกกลับมายิ่งกว่าเดิม เมื่อหยุดใช้!




วิธีรักษาฝ้าที่ดีที่สุด!
 
 

     ทางที่ดีหากอยากให้รอยฝ้าจางลงอย่างปลอดภัย และเห็นผล


 
ก็ควรเลือกครีมทาฝ้าที่ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพของครีมจากสถาบันที่เชื่อถือได้


 
ครีมทาฝ้าที่ดีควรผลิตจากส่วนผสมของธรรมชาติอย่างแท้จริง โดยไม่มีเคมีทำร้ายผิวหน้าให้เกิดรอยฝ้าฝังลึก


 
อย่างสารไฮโดรคิวโนน สารปรอท เป็นต้น
 

 

พฤติกรรมที่ 3 – แพ้เครื่องสำอาง

 

     ปกติสาวๆก็มักจะแต่งหน้าไปไหนมาไหนอยู่แล้ว แต่ทราบหรือไม่ว่า สาเหตุที่ทำให้ฝ้าไม่จางลงสักที


 
มักเกิดจากอาการแพ้เครื่องสำอางได้เช่นกัน อาการแพ้เครื่องสำอาง เช่นน้ำหอม สี สารกันเสีย


 
เครื่องสำอางบางชนิดที่มีฮอร์โมนเพศผสมอยู่ ก็ทำให้เกิดรอยด่างดำแบบฝ้าได้

 


วิธีรักษาฝ้าที่ดีที่สุด!

 

    ไม่ควรเปลี่ยนแปลงเครื่องสำอางบ่อยๆ เพราะอาจทำให้เกิดการแพ้ได้ง่าย การใช้ควรทดลองบางบริเวณก่อน


 
เช่น ใต้คาง ใต้ท้องแขน แต่หากใช้เครื่องสำอางชนิดไหนแล้วเกิดการแพ้


 
ควรจะอ่านรายละเอียดของสารประกอบในเครื่องสำอางนั้นว่ามีสารตัวใดอยู่บ้าง ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดการแพ้


 
เพื่อจะได้หลีกเลี่ยงสารตัวนั้นเมื่อจะซื้อเครื่องสำอางชนิดอื่นอีกต่อไป
 



พฤติกรรมที่ 4 – พักผ่อนน้อย

 

     คนที่พักผ่อนน้อย ไม่ค่อยมีเวลานอน นอกจากจะทำให้ผิวหนาเกิดริ้วรอย สิว หน้าหมองคล้ำแล้ว


 
เมื่อร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอระบบภายในร่างกายก็จะรวน มีผลต่อฮอร์โมนในร่างกายทำงานได้ไม่ค่อยดี


 
จนเป็นสาเหตุให้เกิดอาการเครียด มีอนุมูลอิสระ ส่งผลให้เมลานินทำงานได้ไม่ค่อยดี รอยฝ้าจึงชัดมากยิ่งขึ้น!


 

วิธีรักษาฝ้าที่ดีที่สุด!
 


     พยายามพักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียด ดื่มน้ำ หรือน้ำอุ่นผสมน้ำผึ้งเล็กน้อยก่อนนอน


 
ก็จะทำให้นอนหลับง่ายสบายมากยิ่งขึ้น เมื่อรน่างกายพักผ่อนเพียงพอ คลายความเครียดแล้ว
 


รอยฝ้าก็จะค่อยๆจางลงได้ดี ผิวเปล่งปลั่ง ลดริ้วรอย และสิวได้
 



พฤติกรรมที่ 5 – สารอาหารไม่เพียงพอ

 

     หากใครที่ชอบทานแต่ของหวาน ของทอด ของมัน อาหารฟาสฟู้ด เครื่องดื่มแอลกอฮอล ไม่ค่อยได้ทานผัก ผลไม้




หรือผู้ที่ขาดสารอาหารจพวกวิตามินบี 12 ก็จะมีปัญหาเกิดรอยฝ้า กระ ตามส่วนต่างๆของใบหน้า รอยฝ้าจึงเด่นขึ้น




วิธีรักษาฝ้าที่ดีที่สุด!

 

     เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ อย่างการทานผัก ผลไม้ที่มีส่นประกอบของวิตามินซี วิตามินบี12


 
แร่ธาตุ และไฟเบอร์ รวมถึงดื่มน้ำสะอาดให้ได้มากๆ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว


 
ก็จะช่วยให้ร่างกายเกิดการต่อต้านอนุมูลอิสระ ชวยขับถ่ายสารพิษ ทำให้รอยฝ้าจางลงได้เป็นอย่างดี



 

พฤติกรรมที่ 6 – ยังทานยาคุม
 

     ยาคุม มีส่วนผสมของฮอร์โมนเพศ ทำให้เซลล์สร้างเม็ดสีทำงานมากขึ้น
 
 
สาวๆที่ทานยาคุมจึงมีรอยฝ้าขึ้นได้ง่ายกว่าคนที่ไม่ทานยาคุม รวมถึงคนที่ตั้งครรภ์ก็จะมีรอยฝ้าได้เช่นกัน
 


วิธีรักษาฝ้าที่ดีที่สุด!

 

     หากจำเป็นต้องทานยาคุมจริงๆ ก็ควรเลือกทานยาคุมที่มีปริมาณฮอร์โมนที่น้อยลง


 
หากไม่แน่ใจว่ายาคุมตัวไหนมีปริมาณยาคุมเท่าไหร่ ควรปรึกษาเภสัช หรือปรึกษาแพทย์เพื่อรับยาคุมที่ปริมาณน้อยลง


 
แต่หากหยุดทานยาคุม หรือคนที่ตั้งครรภ์คลอดลูกแล้ว รอยฝ้าก็จะจางลงได้เองตามธรรมชาติ
 
 


พฤติกรรมที่ 7 – ไม่ล้างหน้าก่อนนอน


 

     สิ่งสกปรก สารเคมีจากเครื่องสำอางที่เกาะอยู่บนใบหน้า จะส่งผลให้รอยฝ้าชัดมากยิ่งขึ้น


 
หากลืมล้างหน้าก่อนนอนบ่อยๆ ก็จะส่งผลให้เคมีสิ่งสกปรกสะสมในชึ้นผิว ทำให้เมลานินก่อตัว
 


ถึงจะทาครีมรักษาฝ้าดีแค่ไหน ถ้าไม่ล้างหน้าก่อนนอน รอยฝ้าก็ไม่จางลงแน่นอน
 




วิธีรักษาฝ้าที่ดีที่สุด!


 

     ควรเลือกทำความสะอาดผิวหน้าให้ได้วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น


 
โดยเลือกวิธีทำความสะอาดใบหน้าด้วยทฤษฎีล้างหน้าตามแนวรูขุมขน จะช่วยให้สิ่งสกปรก


 
สารเคมีจากเครื่องสำอางหลุดได้ง่าย และครีมบำรุงผิว รวมถึงครีมทาฝ้าก็จะซึมเข้าสู่ชั้นผิวได้ดียิ่งขึ้น


 
รอยฝ้าก็จะค่อยๆจางลงได้ดี
 

 
การดูแลป้องกันรักษาฝ้านั้น ต้องใช้ความอดทนและมีวินัยสูง การรักษาควรเป็นไปอย่างต่อเนื่อง


 
และควรเลือกใช้ครีมรักษาฝ้าดีๆ อย่างครีมรักษาฝ้า สูตรหัวใชเท้า 



ที่มีสารสกัดจากธรรมชาติไม่ทำร้ายผิวหน้า ช่วยบรรเทา ลดรอยฝ้าได้ดี!

31 สิงหาคม 2564

ผู้ชม 444 ครั้ง

    Engine by shopup.com